นึกถึงตอนแปลบทภาพยนตร์โทรทัศน์จีนเรื่องสามก๊ก เมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้ว ผมยังรู้สึกถึงความเหนื่อยอยู่เลย
เพราะตอนนั้นทำแข่งกับเวลา !
และบทภาพยนตร์เรื่องนี้ เกือบทั้งหมดนำเอา ประโยคในวรรณคดีเรื่องสามก๊กที่เป็นภาษาจีนโบราณ มาให้ตัวละครพูด
ภาษาหนังสือของจีนโบราณนั้น แยกแตกต่างจากภาษาพูด
ภาษาพูดกับภาษาหนังสือแตกต่างกันมาก ภาษาหนังสือโบราณ เขียนวรรคละสี่คำ
ตัวละครสามก๊ก ก็พูดประโยคละสี่คำ แต่เนื้อหาของสี่คำนี้ ถ้าแปลเป็นภาจีนสมัยปัจจุบันหรือภาษาไทย ก็จะต้องยาวถึงแปดถึงสิบคำ
แต่ผมจะต้องแปลให้มีคำเพียงสี่คำ เพื่อให้นักพากย์ใส่เสียงได้ตรงกับการขยับปากของนักแสดง
มันยาก มันเหนื่อย ตรงนี้แหละครับ !
แต่ ผมก็ทำงานแปลแนวนี้มาตลอด จนในปัจจุบันนี้ ผมยอมรับว่า ผมแปลวรรณกรรมสมัยใหม่ ที่มีคำสแลง มีคำที้เกิดใหม่ในสังคมจีน ได้ช้ากว่าแปลคัมภีร์โบราณเสียอีก
ที่เป็นเช่นนี้ เพราะว่า “คลังคำ” ของผม มันเป็นคำโบราณ ไม่ได้ติดตามวรรณกรรมสมัยใหม่ (แบบที่มีคำใหม่ใช้กันใน อินเตอร์เน็ต) เลย
ตั้ง ชื่อเรื่องไว้ว่า คมคำโจโฉ ก็ขอใช้คำโบราณที่ขุนศึกสามก๊กเขาพูดหรือเขียนเอาไว้ มาร้อยเรียงกัน หากขัดเขินนัก ก็ต้องขออภัยผู้อ่าน
โจโฉกับเล่าปี่นั้น เป็นวีรบุรุษผู้มีปณิธานยิ่งใหญ่จริง แรงขับดันของปณิธานนี้ ประกอบกับคุณสมบัติข้อดีด้านอื่น ๆ ของเขา ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้เป็นเจ้าก๊ก
อุดมคติของโจโฉนั้น เขาเคยกล่าวว่า
“มังกรย่อมเปลี่ยนแปรตามสถานการณ์ ยามใหญ่ก็ฟ้อนเมฆเหินหาว
ยามเล็กก็ซ่อนตัวตน ถ้าปรากฏก็ผงาดกลางฟ้า ถ้าซ่อนตัวก็แทรกบังอยู่ในคลื่น”
มังกรเป็นสัญลักษณ์ของยอดบุรุษ โจโฉบอกว่า
“วีรบุรุษต้องคิดการใหญ่ มีแผนกลยุทธ์ มีสติปัญญายอดเยี่ยม มีปณิธานยิ่งใหญ่”
นอกจากนั้นยังต้องรู้จักใช้คน โจโฉบอกว่า
“ห้อปัก(เมืองของอ้วนเสี้ยว)มีคนสัตย์ซื่ออยู่เป็นอันมาก น่าเสียดายที่อ้วนเสี้ยวใช้คนไม่เป็น”
และ “มีฝ่ายบุ๋นดียังไม่พอ ต้องมีฝ่ายบู๊ดีด้วย”
โจโฉมีวิธีใช้คนเหมือนเลี้ยงเหยี่ยว เขาบอกว่า
“เหยี่ยวยอมให้ข้าใช้เพราะมันหิว ถ้าอิ่มมันก็บินหนีไป”
นอกจากใช้พระคุณแก้หิวให้ลูกน้องแล้ว ต้องมีพระเดชรักษาวินัยด้วย
ความ หิวของลูกน้องก็คือ หิวทรัพย์ หิวเกียรติ หิวลาภยศตำแหน่ง หิวผู้หญิง ฯ โจโฉบอกว่า “ แม้ในท่ามกลางความวุ่นวาย ก็ยังต้องนึกถึงวินัย”
โจโฉ ว่าตัวเขาเป็นฝ่ายธรรมะ ธรรมะย่อมชนะอธรรม เขาว่า “ข้าพึ่งผู้มีปัญญา ยึดหลักธรรมะ อยู่ที่ไหนก็ชนะ”
แต่เขาก็เตือนว่า “ทำสงครามอย่าหน่ายกลอุบาย”
แล้วจะรู้อย่างไรว่าโจโฉเป็นฝ่ายธรรมะหรืออธรรม
นางง่อฮูหยิน แม่ของซุนกวนสรุปว่า “โลกเรานี้ ยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้ !”