19 มกราคม 2553

คมคำโจโฉ

นึกถึงตอนแปลบทภาพยนตร์โทรทัศน์จีนเรื่องสามก๊ก เมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้ว ผมยังรู้สึกถึงความเหนื่อยอยู่เลย

เพราะตอนนั้นทำแข่งกับเวลา !

และบทภาพยนตร์เรื่องนี้ เกือบทั้งหมดนำเอา ประโยคในวรรณคดีเรื่องสามก๊กที่เป็นภาษาจีนโบราณ มาให้ตัวละครพูด

ภาษาหนังสือของจีนโบราณนั้น แยกแตกต่างจากภาษาพูด

ภาษาพูดกับภาษาหนังสือแตกต่างกันมาก ภาษาหนังสือโบราณ เขียนวรรคละสี่คำ

ตัวละครสามก๊ก ก็พูดประโยคละสี่คำ แต่เนื้อหาของสี่คำนี้ ถ้าแปลเป็นภาจีนสมัยปัจจุบันหรือภาษาไทย ก็จะต้องยาวถึงแปดถึงสิบคำ

แต่ผมจะต้องแปลให้มีคำเพียงสี่คำ เพื่อให้นักพากย์ใส่เสียงได้ตรงกับการขยับปากของนักแสดง

มันยาก มันเหนื่อย ตรงนี้แหละครับ !

แต่ ผมก็ทำงานแปลแนวนี้มาตลอด จนในปัจจุบันนี้ ผมยอมรับว่า ผมแปลวรรณกรรมสมัยใหม่ ที่มีคำสแลง มีคำที้เกิดใหม่ในสังคมจีน ได้ช้ากว่าแปลคัมภีร์โบราณเสียอีก

ที่เป็นเช่นนี้ เพราะว่า “คลังคำ” ของผม มันเป็นคำโบราณ ไม่ได้ติดตามวรรณกรรมสมัยใหม่ (แบบที่มีคำใหม่ใช้กันใน อินเตอร์เน็ต) เลย

ตั้ง ชื่อเรื่องไว้ว่า คมคำโจโฉ ก็ขอใช้คำโบราณที่ขุนศึกสามก๊กเขาพูดหรือเขียนเอาไว้ มาร้อยเรียงกัน หากขัดเขินนัก ก็ต้องขออภัยผู้อ่าน

โจโฉกับเล่าปี่นั้น เป็นวีรบุรุษผู้มีปณิธานยิ่งใหญ่จริง แรงขับดันของปณิธานนี้ ประกอบกับคุณสมบัติข้อดีด้านอื่น ๆ ของเขา ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้เป็นเจ้าก๊ก

อุดมคติของโจโฉนั้น เขาเคยกล่าวว่า

“มังกรย่อมเปลี่ยนแปรตามสถานการณ์ ยามใหญ่ก็ฟ้อนเมฆเหินหาว

ยามเล็กก็ซ่อนตัวตน ถ้าปรากฏก็ผงาดกลางฟ้า ถ้าซ่อนตัวก็แทรกบังอยู่ในคลื่น”

มังกรเป็นสัญลักษณ์ของยอดบุรุษ โจโฉบอกว่า

“วีรบุรุษต้องคิดการใหญ่ มีแผนกลยุทธ์ มีสติปัญญายอดเยี่ยม มีปณิธานยิ่งใหญ่”

นอกจากนั้นยังต้องรู้จักใช้คน โจโฉบอกว่า

“ห้อปัก(เมืองของอ้วนเสี้ยว)มีคนสัตย์ซื่ออยู่เป็นอันมาก น่าเสียดายที่อ้วนเสี้ยวใช้คนไม่เป็น”

และ “มีฝ่ายบุ๋นดียังไม่พอ ต้องมีฝ่ายบู๊ดีด้วย”

โจโฉมีวิธีใช้คนเหมือนเลี้ยงเหยี่ยว เขาบอกว่า

“เหยี่ยวยอมให้ข้าใช้เพราะมันหิว ถ้าอิ่มมันก็บินหนีไป”

นอกจากใช้พระคุณแก้หิวให้ลูกน้องแล้ว ต้องมีพระเดชรักษาวินัยด้วย

ความ หิวของลูกน้องก็คือ หิวทรัพย์ หิวเกียรติ หิวลาภยศตำแหน่ง หิวผู้หญิง ฯ โจโฉบอกว่า “ แม้ในท่ามกลางความวุ่นวาย ก็ยังต้องนึกถึงวินัย”

โจโฉ ว่าตัวเขาเป็นฝ่ายธรรมะ ธรรมะย่อมชนะอธรรม เขาว่า “ข้าพึ่งผู้มีปัญญา ยึดหลักธรรมะ อยู่ที่ไหนก็ชนะ”

แต่เขาก็เตือนว่า “ทำสงครามอย่าหน่ายกลอุบาย”

แล้วจะรู้อย่างไรว่าโจโฉเป็นฝ่ายธรรมะหรืออธรรม

นางง่อฮูหยิน แม่ของซุนกวนสรุปว่า “โลกเรานี้ ยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้ !”